สาวก หงส์แดง ลิเวอร์พูล มีความหวัง ได้ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในซีซั่นนี้เต็มตัว หลัง ลิเวอร์พูล บุกชนะ อาร์เซน่อล 2-0 เน้นๆ ถึงถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในเกมลีกเมื่อวันพุธที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา
ตอนนี้พวกเขาแล่นตามหลังเรือใบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูง เหลือเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น ขณะที่เจ้าบ้าน บิ๊กกัน แม้จะแพ้ในเกมนี้ แต่ก็ยังยึดอันดับท๊อปโฟร์ต่อไป และยังเหลือเกมในมืออีกสองแมตช์ ฉะนั้น อาร์เซน่อล ยังคงได้เปรียบทีมอื่นๆ ที่กำลังลุ้นท็อปโฟร์เช่นกัน
- คล็อปป์กระตุ้นทีม-ปรับหมากเด็ด
ครึ่งแรกแฟนหงส์ รู้สึกได้เลยว่า ลิเวอร์พูล เล่นได้อึดอัดมากๆ แทบไม่สามารถกดดันบิ๊กกัน อาร์เซน่อล ได้เลย แถมยังโดนเจ้าบ้านรุก กดดันจนเสียฟอร์มหลายต่อหลายครั้ง
ช่วงพักครึ่งแรก เจอร์เก้น คล็อปป์ จัดการแก้เกมได้ดีเยี่ยม โดยมีความเป็นไปได้ ที่ทำการกระตุ้นแข้งแบบจัดหนักจัดเต็มในห้องแต่งตัว เพราะพอลงมาเล่นในช่วง 45 นาทีหลัง บรรดานักเตะ ลิเวอร์พูล สตาร์ทดีวิ่งสู้ฟัดทุกตำแหน่ง จนทำให้ อาร์เซน่อล เล่นไม่ออกเลยทีเดียว
แถมการส่ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กับโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงมาในตอนที่ทีมขึ้นนำ ยิ่งทำให้ทีมเยือนสามารถวิ่งไล่กดดันจนทำให้เกมของ อาร์เซน่อล ปั่นป่วน และสุดท้ายก็โดนยิงประตูที่สอง
ฉะนั้นชัยชนะในเกมนี้ต้องยกเครดิตส่วนหนึ่งให้กับ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมัน ที่กระตุ้นลูกทีม และปรับหมากจนทำให้ หงส์แดง แสดงผลงานได้อย่างโดดเด่นในแมตช์นี้
ที่สำคัญสาวกลิเวอร์พูล คงเวรี่ แฮปปี้ ที่ได้เห็นสามประสาน “หินเหล็กไฟ” (SMF) กลับมาท๊อปฟอร์ม ลงสนามพร้อมกันอีกครั้งในช่วงครึ่งหลัง และนี่คงเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ได้เห็นเกมบุกอันเฉียบคมของทีม ในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล
- อลีสซง, ติอาโก้ จุดเปลี่ยนของเกม
ในช่วง 45 นาทีแรก ฟอร์มการเล่นของ อลีสซง เบ็คเกอร์ ต้องบอกเลยว่าอึดอัด ไม่ค่อยได้ทำงานมากนัก เพราะเกมส่วนใหญ่จะสู้กันในแดนกลาง แม้ว่า ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล จะสร้างความหวาดเสียวได้มากกว่า แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้เขาต้องออกแรงป้องกันอะไรมากนัก
ในช่วงครึ่งหลัง เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญ จากความผิดพลาดของ ติอาโก้ อัลกันทาร่า ที่ส่งคืนหลังไม่ดูตาม้าตาเรือ ทำให้ อเลซ็องเดร์ ลากาแซตต์ ได้โอกาสครองบอลในเขตโทษ แต่ อลีสซง พยายามเข้าไปสกัดกั้น ทำให้ไม่สามารถยิงประตูได้ และต้องส่งให้ มาร์ติน โอเดการ์ด กระนั้นนายด่านชาวแซมบ้า รีบเข้ามาบีบจังหวะทำให้ ดาวเตะชาวนอร์เวย์ ต้องรีบยิง สุดท้ายก็ติดแขนเจ้าตัวออกไป
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ติอาโก้ สามารถแก้ตัวได้ด้วยการแอสซิสต์ให้ ดีโอโก้ โชต้า ซัดประตูขึ้นนำ ซึ่งเป็นจุดพลิกผันของเกมนี้เลยก็ว่าได้ แถม กองกลางแดนกระทิงดุ ยังมีส่วนร่วมในจังหวะที่ทีม ได้ประตูที่สองด้วย
ดังนั้นถือว่า ติอาโก้ สามารถแก้ตัวได้สำเร็จ เพราะหากเกมนี้ทีมต้องแพ้จากการเล่นไม่ระวังของเขา คงได้มีการกล่าวขานไปทั้งฤดูกาลนี้เป็นแน่
- มาร์ติเนลลี่ กด เทรนต์ จนเล่นไม่ออก
ถ้าจะถามว่าผู้เล่นของ บิ๊กกัน อาร์เซน่อล คนไหนที่ฟอร์มโดดเด่นที่สุด งานนี้ทุกคนต้องบอกว่า กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ เพราะฟอร์มของมาร์ติเนลลี่ ยอดเยี่ยมมากๆ ไม่ว่าจะเรื่องการเลี้ยงบอล, ความเร็ว และการหาพื้นที่ว่าง ต้องยอมรับว่าวันนี้เจ้าหนูบาร์ซิเลียน มาร์ติเนลลี่ ทำได้ดีมากๆ
ฟอร์มการรุกของเขาเล่นงาน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จนตั้งรับแทบไม่ทัน มีหลายจังหวะที่บอลมาถึง มาร์ติเนลลี่ เมื่อไหร่ เขาสามารถกระชากบอลหนี เทรนต์ ได้ตลอด แถมยังมีจังหวะโชว์สกิลเทพ หลอกแบ็กขวาจอมแอสซิสต์ ตามด้วยเตะบอลลอดขา จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แต่กระนั้นที่เปิดบอลเข้ากลางไม่ดี ทำให้โดนแนวรับทีมเยือนเคลียร์ออกไปได้อย่างหวุดหวิด
อย่างไรก็ตาม มาร์ติเนลลี่ ใช้พลังงานเยอะมาก เพราะต้องรับบทหนักในเกมรุกของทีม จะเห็นได้ชัดว่าช่วง 10 นาทีสุดท้าย เขาหมดแรงไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้เลย
แน่นอนว่าผลงานอันโดดเด่นของเขาในเกมนี้ ถือว่าเป็นอนาคตที่ดีของ ไอ้ปืนโต อาร์เซน่อล แต่ต้องจัดสรรเรื่องการใช้พลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะไม่อย่างนั้นจะหมดแรงในท้ายเกมอย่างที่เห็น
- แบ็กโฟร์สุดแกร่ง
สามคะแนนในแมตช์นี้ต้องบอกเลยว่าได้มาจากการเล่นเกมรับที่เหนียวแน่นของ โฌแอล มาติป กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ โดยทั้งสองคนเล่นไม่มีข้อผิดพลาดเลยในการจัดการกับ ลากาแซตต์ และบล็อกไม่ให้แดนกลางของ บิ๊กกัน อาร์เซน่อล มีโอกาสได้เก็บบอลจังหวะสอง
นอกจากนี้แข้งทั้งสอง ยังจัดการลูกกลางอากาศได้หมด รวมทั้งในจังหวะเติมเกมรุก มาติป ยังช่วยพาบอลเข้าไปในแดนของ อาร์เซน่อล เพื่อสร้างโอกาสให้ทีม ส่วน ฟาน ไดค์ ถนัดในการเล่นลูกเตะมุม ซึ่งเกือบได้ประตูในช่วงต้นครึ่งแรกด้วย
ขณะที่เทรนต์ แบ็กขวาต้องยอมรับแล้วว่าวันนี้ โดนทดสอบเรื่องเกมรับมากกว่าเกมรุก เพราะเขาต้องสู้กับมาร์ติเนลลี่ นักเตะที่เต็มไปด้วยทักษะและความคล่องตัวสูง ตลอดทั้งเกม แน่นอนว่านี่คือบทเรียนที่เทรนต์ จะต้องเรียนรู้ในการรับมือกับนักเตะที่มีทักษะสูงแบบนี้
สำหรับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ต้องบอกว่ารักษามาตรฐานความยอดเยี่ยมได้คงเส้นคงวาจริงๆ เกมนี้เขาสามารถจัดการกับ บูกาโย่ ซาก้า อยู่หมัด จนทำให้ ซาก้า ดาวรุ่งพุ่งแรงทีมชาติเมืองผู้ดี เล่นไม่ออก ที่สำคัญในการเติมเกมรุก บุกก็น่ากลัว เรื่องความขยันก็สุดยอด เพราะจังหวะได้ประตูที่สอง เขาแย่งบอลมาก่อนแอสซิสต์ให้ ฟีร์มีโน่ ซัดประตูย้ำชัยชนะ
- ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกเต็มตัว
ตอนนี้คงไม่ต้องต้องปฏิเสธ ถึงโอกาสในการคว้าแชมป์ลีกในซีซั่นนี้กันแล้ว เพราะชัยชนะในแมตช์นี้ทำให้หงส์แดง ลิเวอร์พูล ไล่บี้แบบแนบชิด เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหลือแค่ 1 คะแนนเท่านั้น
ที่สำคัญดูเหมือนจังหวะดีๆ จะเข้าทาง หงส์แดง ซะด้วย เพราะมีหลายชอตที่ เรือใบสีฟ้า เล่นพลาด เพราะเล่นด้วยความกดดัน ทั้งสองทีมมีคิวต้องปะทะกันในช่วงเดือนเมษายนนี้ ซึ่งเป็นไปได้ว่ามันอาจจะเป็นแมตช์ตัดสินแชมป์ลีกก็ได้
สิ่งสำคัญในเวลานี้ก็คือ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องห้ามพลาดแม้แต่นิดเดียว เพราะหากทีมใดทำแต้มหลุดมือ งานนี้มีเสียศูนย์ ส่งให้อีกฝ่ายเตรียมเฮได้เลย ด้วยเหตุนี้ทั้งเจอร์เก้น คล็อปป์ และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องกำชับลูกทีมให้เล่นอย่างมีสมาธิ และห้ามกดดันจนตัวเองทำผิดพลาด