ฟาน ไดจ์ค (Van Dijk) เกิดเมื่อวันที่ 8 เดือนกรกฎาคม ปี 1991 เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวฮอลแลนด์ ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค ให้กับสโมสรหงส์แดง ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก และกัปตันทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ถือว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในโลก ฟาน ไดจ์ค เป็นที่รู้จักจากความแข็งแกร่ง ความเป็นผู้นำ และความสามารถของเขา เขาเป็นนักเตะเพียงคนเดียว ที่เป็นกองหลัง ที่ได้รับรางวัลนักเตะชายยอดเยี่ยมแห่งปี ของยูฟ่า และได้รองแชมป์บัลลังก์ดอร์ และนักเตะชายยอดเยี่ยมของฟีฟ่า มากมาย
จุดเริ่มต้นของการเป็นนักเตะ ของฟาน ไดจ์ค เขาเริ่มค้าแข้งกับ โกรนิงเก้น และ ฟาน ไดจ์ค ได้ย้ายไปเซลติกในปี 2013 ซึ่งเขาคว้าแชมป์ สกอตติช พรีเมียร์ชิพ และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA Scotland ทั้งในฤดูกาลของเขากับสโมสร และยังคว้าแชมป์ สก็อตติช ลีก คัพ อีกด้วย หลังปี 2015 เขาได้เข้าร่วมทีม Southampton ก่อนที่จะไปเซ็นสัญญากับ Liverpool ในเดือนมกราคม 2018 ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นค่าตัวที่ทำลายสถิติโลกในเวลานั้นสำหรับกองหลัง กับ ลิเวอร์พูล
Van Dijk เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ UEFA Champions League ติดต่อกันในปี 2018 และ 2019 ได้สำเร็จ นอกจากนี้ เขายังได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA ด้วย และได้เป็นผู้เล่นพรีเมียร์ลีกแห่งปีในฤดูกาลแรก ฟาน ไดจ์ค คว้าแชมป์ฟีฟ่าคลับ เวิลด์คัพและ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ และช่วยยุติความแห้งแล้งในลีก 30 ปีของสโมสรลิเวอร์พูลด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกปี 2019–2020
ฟาน ไดจ์ค เริ่มเปิดตัวกับทีมชาติของเขา โดยฟานโดจ์ค กลายเป็นกัปตันของฮอลแลนด์ ในปี 2018 และเขาทำประตูแรก ในระดับทีมชาติ ในการชนะโปรตุเกส 3–0 อีกหนึ่งปีต่อมา ฟาน ไดจ์ค กัปตันทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ซึ่งพวกเขาได้รองชนะเลิศ
สโมสรที่ ฟาน ไดจ์ค เคยลงเล่นตลอดการค้าแข้งของเขา
Groningen
เป็นจุดเริ่มของการเป็นนักเตะอาชีพของ ฟาน ไดจ์ค เขาพยายามทุ่มเทกับการเข้าสโมสรแรก Groningen โดยช่วงแรกของฟาน ไดจ์ค นั้น ค่อนข้างลำบาก โดยโดนทีมงาน Groningen ตำหนิว่าเป็นคนไม่ฟิต เล่นนานๆ ไม่ได้ เหนื่อยง่าย เขาลงเล่นในสนามเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2011 โดยลงเล่นแทน เพตเตอร์ แอนเดอร์สสัน ในนาทีที่ 72 โดยได้รับชัยชนะ 4–2 กับเอดีโอ เดน ฮาก และเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม เขาลงเล่นเป็นตัวจริง ให้กับ โกรนิงเก้น เป็นครั้งแรกและยิงประตูแรกในอาชีพของเขา โดยทำประตูได้สองครั้งในชัยชนะ 5-1 ในการแข่งขัน เพลย์ออฟ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก นั้นเอง
Celtic 2013–2014
วันที่ 21 มิถุนายน 2013 ฟาน ไดจ์ค ได้ตัดสินใจย้ายทีม มาร่วมกับทัพ Celtic ด้วยค่าตัวประมาณ 2.6 ล้านปอนด์ เซ็นสัญญาสี่ปี รวมถึงได้ค่าธรรมเนียมการขายอีก 10% จาก Groningen เขาลงสนามเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม แทนที่ Efe Ambrose ในช่วง 13 นาทีสุดท้ายของชัยชนะเหนือ อเบอร์ดีน 2-0 ของ สกอตติช พรีเมียร์ชิพ ที่สนาม Pittodrie อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา เขาได้ลงเป็นตัวจริงครั้งแรกในเกมที่ทำเสมอกับ อินเวอร์เนส สกอตแลนด์ 2-2 ที่เซลติก พาร์ค เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ฟาน ไดจ์ค ทำประตูแรกให้กับ เซลติก โดยลูกโหม่ง ทีมได้รับชัยชนะ 4-1 เหนือ รอส เคาน์ตี้ หลังจากนั้น เขาทำได้ประตูเดียว และได้รับชัยชนะเหนือเซนต์ จอห์นสโตน เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ฤดูกาล 2014–2015
วันที่ 22 กรกฎาคม 2014 ฟาน ไดจ์ค และ ตีมู ปุกกี้ ต่างทำได้คนละสองประตูในการเอาชนะ KR 4-0 ในบ้าน ในรอบคัดเลือกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ทำให้ทีมของพวกเขาเข้าสู่รอบต่อไปด้วยสกอร์รวม 5–0 เขาทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก วันที่ 9 พฤศจิกายน โดยจบด้วยลูกเตะมุมในนาทีสุดท้ายของ สเตฟาน โยฮันเซ่น ได้รับชัยชนะ 2-1 ที่ อเบอร์ดีน อีกสามสัปดาห์ต่อมา Van Dijk ทำประตูแรกและ ประตูสุดท้ายของ Celtic ชนะ 4-0 กับ Heart of Midlothian ในรอบที่สี่ของ สก็อตติช คัพ อีกสี่วันหลังจากนั้น เขาทำประตูที่หกของฤดูกาล นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับชัยชนะในนัดเหย้ากับ พาร์ทิค ทิสเซิล เพื่อนบ้านของกลาสโกว์
Southampton
วันที่ 1 กันยายน 2015 ฟาน ไดจ์ค ได้เซ็นสัญญาห้าปีกับสโมสรในพรีเมียร์ลีก นักบุญ เซาแธมป์ตัน ซึ่งบริหารโดย โรนัลด์ คูมัน ด้วยค่าตัวตามรายงาน 13 ล้านปอนด์ เขาประเดิมสนามแรกให้เซาแธมป์ตันเมื่อวันที่ 12 กันยายน ในเกมทำเสมอ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 0-0 ที่ เดอะฮอว์ธอร์นส์ สองสัปดาห์ต่อมา ฟาน ไดจ์ค ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งที่สาม และทำประตูแรกให้กับสโมสร ด้วยการโหม่ง ในนาทีที่ 11 ทำให้เซาแธมป์ตันขึ้นนำ หลังลูกตั้งเตะจาก เจมส์ วอร์ด-พราวส์ ในเกมที่ชนะ สวอนซี ซิตี้ 3–1 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2016 Van Dijk ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ Saints เป็นเวลา 6 ปี
ฟาน ไดจ์ค กับ Liverpool
สโมสรหงส์แดง ลิเวอร์พูล มีการเปิดตัว ฟานไดจ์ค หลังจากที่เขาได้ตัดสินใจ มาร่วมทีมลิเวอร์พูล ในวันที่ 1 มกราคม 2018 โดยมีค่าธรรมเนียมตามรายงาน 75 ล้านปอนด์ อดีตสโมสรเซลติก จะได้รับ 10% ของค่าธรรมเนียมการโอนของ Van Dijk เนื่องจากการขายนักเตะ ตามข้อตกลงที่วางไว้ในสัญญาเซาแธมป์ตันของเขา เซาแธมป์ตันอ้างว่าค่าธรรมเนียมการโอน ที่ไม่เปิดเผยจะเป็นค่าธรรมเนียมตามสถิติโลก ในวงการฟุตบอลสำหรับ ฟานไดจ์ค
วันที่ 17 ตุลาคม ที่เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ เขาถูกเปลี่ยนตัวในนาทีที่ 6 หลังจากการเข้าเสียบ จากจอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตู ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ในวันต่อมา มีการประกาศว่าเขาได้รับบาดเจ็บจาก ACL ที่หัวเข่าขวา และจะต้องเข้ารับการผ่าตัด โดยคาดว่าเขาจะหายภายใน 6-12 เดือน และ 30 ตุลาคม ฟาน ไดจ์ค ได้รับการผ่าตัดจากอาการบาดเจ็บได้สำเร็จ
Van Dijk ปรากฏตัวครั้งแรกในรอบ 9 เดือนเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ค.ศ.2021 โดยเข้ามาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลัง ในเกมอุ่นเครื่องกับ แฮร์ธา บีเอสซี เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 2021 Van Dijk ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่สี่ปี โดยจะทำให้เขาอยู่ที่สโมสรจนถึงปี 2025